วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

โครงงานคอมพิวเตอร์ 2/58

สัปดาห์ที่ 1

ใบงานที่ 1.1 : ความหมายและคุณค่าของโครงงาน

1. จงบอกความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
     - การศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีขึ้น เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในวิทยาการ          คอมพิวเตอร์ และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้
2. นักเรียนคิดว่าการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ จะได้ประโยชน์อย่างไร ให้แสดงความคิดเห็นเป็นข้อๆ
     - เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง
     - เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนในห้อง        ตามปกติ
     - ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน
     - กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมีความสนใจที่จะประกอบ        อาชีพทางด้านนี้
     - ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
     - สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนสนใจคอมพิวเตอร์              และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
     - สร้างสำนึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง
3. กิจกรรมที่จัดว่าเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ควรมีองค์ประกอบหลักอะไรบ้าง
     - เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ และ/หรือ ฮาร์ดแวร์
     - ผู้เรียนเป็นผู้ริเริ่มและเลือกเรื่องที่จะศึกษา ค้นคว้า พัฒนา ด้วยตนเองตามความสนใจและระดับ                ความรู้ความสามารถ
     - ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า ตลอดจนการพัฒนา เก็บรวบรวมข้อมูล หรือประดิษฐ์                คิดค้น รวมทั้งการสรุปผล และการเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรง                คุณวุฒิเป็นผู้ให้คำปรึกษา
4. "การทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ได้พัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน" นักเรียนมีความคิดเห็นต่อประโยคนี้อย่างไร
- การทำโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์จะมีคุณค่าต่อการฝึกฝนให้ผู้เรียนมี     ความรู้ ความชำนาญ และมีทักษะในการนำระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์         คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง
5. นักเรียนใช้หลักเกณฑ์อะไรบ้าง ในการเลือกทำโครงงาน จงเขียนเป็นข้อ ๆ เรียงตามลำดับความสำคัญ
     - เลือกหัวข้อที่เราสนใจ
     - เลือกตามความสามารถและศักยภาพที่เรามี
     - เลือกที่คิดว่าตนเองทำได้


ใบความรู้ที่ 1.2 : ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์

โครงงานคอมพิวเตอร์แบ่งเป็น 5 ประเภท คือ
          -โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media Development)
          -โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
          -โครงงานจำลองทฤษฏี (Theory Simulation)
          -โครงงานประยุกต์ใช้งาน (Application)
          -และโครงงานพัฒนาเกม (Game Development)











วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สื่อการสอนเรื่องการใช้โปรแกรม Nero Start Smart

https://www.youtube.com/watch?v=GqqeYvmkcmo

ได้รู้จักโปรแกรมตัดต่อวิดีโอเพิ่มขึ้น ได้เรียนรู้การใช้โปรแกรม และทางลัดต่างๆในการตัดต่อวิดีโอ

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ผลงานนักเรียน


https://sites.google.com/site/jatupornsroy52/

photoshop


ทดลองการใช้ photoshop ที่มีเครื่องมือในการใช้มากมาย
การสร้างรูปภาพ และทางลัดต่างๆ ในการใช้เครื่องมือ

วีดิโอ


ได้รู้จักโปรแกรมตัดแต่งวีดิโอ และได้ทดลองถ่ายวิดีโอ รู้ถึงการใช้เครื่องมือต่างๆในแอพลิเคชัน

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558

PDF






















ทำให้เรารู้เกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ Windows 7 ว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง และรู้เกี่ยวกับโปรแกรมต่างๆในคอมพิวเตอร์

Excel ค่าเฉลี่ย 1






















สามารถใช้ Excel ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รู้วิธีการหาค่าเฉลี่ย และสามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานต่างๆได้

วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2558

รายชื่อสมาชิก 6/2


รายชื่อสมาชิก 6/2

ครูแพท patcharinclass2.blogspot.com

ครูหยก tmkhongyok.blogspot.com

127498นายไกรสร ส่งบุญ
227500นายคุณภัค บวรพิพัฒนวงศ์
327501นายจารุกิตต์ สายสอาด
427503นายญาณกร หาญณรงค์
527508นายธวัชชัย แจ้งบุตร
627512นายสาธิต ผิวผ่อง
727579นายไกรวี ชาโชติ
827580นายคมสันต์ เสมทับ
927677นายพลวัต สวยทอง
1029831นายธรรศ วงศ์ภาณุวัฒน์
1129832นายนิภัทร์ การะเวก
1229833นายภัทรพงษ์ สุทธิบุตร
1329834นายวิรุฬห์ ต๋องเรียน
tmvwiroon.blogspot.com
1430482นายกัมพล เสลาคุณ
1527516นางสาวเจนจิรา รักดี
1627518นางสาวญาณิศา ดวงเจริญยิ่ง
1727520นางสาวธนภรณ์ นาคอ้น
1827521นางสาวธนวรรณ อ่อนส้มกริต
1927527นางสาวลักษณา มุสิกวัตร
2027530นางสาวศิริพิชชาภัค รฐาโชคนิธิธนากุล
2127531นางสาวศิริลักษณ์ ปานน้อย
2227553นางสาวจตุพร อยู่หุ่น
2327557นางสาวฐิติพร สมทบบารมี
2427565นางสาวมัณฑนา จันทร์แจ่ม
2527567นางสาวรัตนาวดี นาคโต
2627569นางสาววัฒนา ศรีสุข
2727573นางสาวสุนิสา เล็กซุง
2827575นางสาวอรทัย ศรีจันทร์
2927830นางสาวดวงพร จิตต์น้ำใจ
3029820นางสาวชนิตา โคตะมะ
3129821นางสาวฐิติยา เลาหะกาญจนศิริ
3229822นางสาวธนัตดา กระต่ายทอง
3329823นางสาวพรฏิตรา ปฏิพัทธ์ธรรม
3429824นางสาวพรปวีณ์ รุ่งเรือง
3529825นางสาวรัตติยา เจริญพร
3629826นางสาวฤทัยกาญจน์ ทองปาน
3729827นางสาวศิริเดือน เลาหเจริญกุล
3829828นางสาวศิริรัตน์ ลี้เกษร
3929829นางสาวศุภากร คงสังข์
4029830นางสาวอภิญญา พุคง
4129935นางสาววราภรณ์ ระเบียบ
4230475นางสาววิรัลพัชร ธนาวัฒน์ศักดิ์

คลังความรู้

มหาวิทยาลัย

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ใบงานที่ 1

การใช้งาน Blogger 

         l



               บล็อก (Blog) คือเว็บไซด์รูปแบบหนึ่ง ที่มีลักษณะรูปร่างหน้าตาคล้ายๆกับการเขียนไดอารี่ หรือ บันทึกส่วนตัว ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากเราใช้ฟรี ไม่ต้องเสียเงิน 
-โดยผู้ที่เขียนบล๊อกเป็นอาชีพ จะถูกเรียกกันว่า "บล็อกเกอร์" (Blogger
-จุดเด่นที่สำคัญของ Blog คือ จะมีระบบที่ผู้อ่านและผู้เขียนสามารถแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันได้ โดยผ่านทางระบบ Comment ของบล๊อก

Blog ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

ทำBlog เป็นเว็บไซด์ส่วนตัว เพื่อแชร์ข้อมูลส่วนตัวให้กับผู้อื่นๆ เช่น บันทึกไดอารี่ 
เขียนBlog เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ นำเสนอสิ่งที่ตนเองรู้ หรือสิ่งที่ตนเองสนใจ เพื่อแบ่งปันให้กับผู้อื่น
สร้างBlog ทำเป็นเว็บไซด์เพื่อใช้ในการโปรโมทธุรกิจ ร้านค้า บริการต่างๆ
ใช้Blog ในการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ (E-Commerce)
- นอกจากนี้ Blog ยังเป็นช่องทางหนึ่งที่นิยมใช้กับเพื่อหารายได้จาก Internet Marketing


Blog กับ Website ต่างกันอย่างไร?

- เว็บไซด์ทั่วๆไปนั้น จำเป็นต้องมี Server, มี Host มี Domain Name เป็นของตนเอง ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ในส่วนของ Blog นั้นเราสามารถสมัครใช้บริการได้แบบฟรี เพียงแต่เราต้องใช้ชื่อ Domain ของผู้ให้บริการนั้นๆ เช่นของ Google คือ Blogger.com - โดเมนเนม ก็จะเป็น "ชื่อBlogของคุณ" ต่อท้ายด้วย "blogspot.com"
- เว็บไซด์ทั่วไปจะมีความยืดหยุ่นสูงในการออกแบบ ดีไซน์ เพราะเราต้องสร้างเองทั้งหมด (ดังนั้นจะเลือกดีไซน์ยังไงก็ได้)
- แต่ Blog จะมีการดีไซน์ในรูปแบบเฉพาะเรียกว่า Blog Template ซึ่งมีให้เลือกมากมาย แต่ยังคงมีลักษณะโครงสร้างที่ค่อนข้างตายตัว ไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนได้มากตามใจชอบอย่างเว็บไซด์
- การสร้างเว็บไซด์ จำเป็นต้องมีทักษะความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากพอสมควร ทั้งในส่วนของภาษาคอมพิวเตอร์, โปรแกรมคอมติวเตอร์ต่างๆ ความรู้เบื้องต้นในเรื่องของ Network เป็นต้น แต่ Blog เพียงรู้หลักในการใช้เล็กน้อยเท่านั้น ก็สามารถสร้างเว็บไซด์ได้อย่างง่ายดาย

ข้อดีและข้อเสียของ Blog : 

ข้อดี
- มีอิสระที่จะนำเสนอสิ่งต่างๆ (ที่ไม่ไปก้าวล่วงบุคคลอื่น และไม่ผิดกฎกติกาของผู้ให้บริการ Blog)
- เปิดโอกาสให้เจ้าของ Blog ได้รับฟังความคิดเห็นของผู้เข้าชมและโต้ตอบกลับได้อย่างอิสระ
- ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในด้านภาษาโปรแกรมต่างๆ 
- หากพอมีความรู้ด้านภาษาเว็บพื้นฐาน (HTML) จะสามารถช่วยทำให้เข้าไปแก้ไข Source Code ได้
เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบ Template ของ Blog ตามต้องการ
- สามารถใช้ Blog ในการทำธุรกิจหารายได้ จากการโปรโมทสินค้าหรือบริการ
- สามารถใช้สร้างเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้ 
ใช้งานได้ฟรี!! ไม่เสียค่าใช้จ่าย (ยกเว้นต้องการจด Domain Name เป็น .com .net .org .info)
- มี Template ให้เลือกใช้มากมาย (ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน)
- Server มีความเสถียรสูง ปัญหาในด้านความช้า หรือ Server ล่ม พบน้อยมาก

ข้อเสีย
- ฟังก์ชั่นและลูกเล่นต่างๆ ยังมีน้อยหากเทียบกับเว็บไซด์ที่สร้างเองหรือเว็บไซด์สำเร็จรูป
- แม้มีรูปแบบ Template ให้เลือกใช้มากมายแต่โครงสร้างเว็บก็ยังคงค่อนข้างตายตัว
- เนื่องจากเป็นบริการให้ใช้ฟรี หากเราทำผิดกฎของผู้ให้บริการ Blog เราจะถูกแบน และมีโอกาส
ถูกลบ Blog ได้ (แต่ถ้าไม่ได้ทำผิดกฎอะไร ก็อยู่ได้อย่างยาวนานจนกว่าผู้บริการจะเลิกให้บริการ)

ที่มา http://www.jojho.com/2013/05/what-is-blog.html